ประวัติ สตางค์ กิตติภพ เสรีวิชยสวัสดิ์

ประวัติ ชื่อ: สตางค์ กิตติภพ เสรีวิชยสวัสดิ์ ชื่อเล่น: […]

ประวัติ

ชื่อ: สตางค์ กิตติภพ เสรีวิชยสวัสดิ์
ชื่อเล่น: ตั้ม
เกิด: 15 ธันวาคม พ.ศ. 2538 (อายุ 33 ปี)
สถานที่เกิด: กรุงเทพมหานคร

การศึกษา

โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เส้นทางอาชีพ

นักแสดง
- เข้าสู่วงการบันเทิงจากการเป็นนักแสดงประกอบในละคร “เลือดข้นคนจาง” (2559)
- เป็นที่รู้จักจากบทบาท “ซัน” ในละคร “เรื่องเล่าเขยบ้านไร่ สะใภ้ไฮโซ” (2559)
- มีผลงานละครโทรทัศน์มากมาย เช่น “รักไม่ลืม”, “เจ้านาง”, “บุพเพสันนิวาส”, “ลิขิตรัก”
พิธีกร
- เป็นพิธีกรรายการ “Star Idol”
- เป็นพิธีกรร่วมในรายการ “แคปเจอร์เดอะโมเมนต์ Thailand”
นักร้อง
- มีผลงานเพลงประกอบละคร เช่น “นาฬิกาตาย” (ละครเรื่อง “เรื่องเล่าเขยบ้านไร่ สะใภ้ไฮโซ”), “ถามใจ” (ละครเรื่อง “ลิขิตรัก”)

ชีวิตส่วนตัว

คบหาดูใจกับมุกกี้ ณัฐพงศ์ กุลปรียาวัฒน์
มีบุตรสาว 1 คน ชื่อ น้องมะลิ กิตติภภัทร เสรีวิชยสวัสดิ์[ประวัติ สตางค์ กิตติภพ เสรีวิชยสวัสดิ์]

บทคัดย่อ

สตางค์ กิตติภพ เสรีวิชยสวัสดิ์ คือผู้กำกับภาพยนตร์ นักเขียนบท และผู้อำนวยการสร้างชาวไทยที่มีชื่อเสียง ได้รับการยอมรับจากผลงานภาพยนตร์ที่โดดเด่นทั้งในด้านความคิดสร้างสรรค์และคุณภาพการผลิต บทความนี้จะเจาะลึกประวัติและอาชีพการงานของสตางค์ รวมถึงวิเคราะห์ปัจจัยที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย

บทนำ

สตางค์ กิตติภพ เสรีวิชยสวัสดิ์ เกิดที่กรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2513 เขาสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปากร สาขานิเทศศาสตร์ ภาพยนตร์และวิดีทัศน์ ก่อนจะเริ่มต้นอาชีพด้วยการเป็นผู้ช่วยผู้กำกับและเขียนบทให้กับภาพยนตร์สั้นหลายเรื่อง ผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาคือ “15 ค่ำ เดือน 11” (พ.ศ. 2545) ซึ่งประสบความสำเร็จทั้งในด้านคำวิจารณ์และรายได้

คำถามที่พบบ่อย

สตางค์ กิตติภพ เริ่มต้นอาชีพการกำกับภาพยนตร์อย่างไร?
- เริ่มจากการเป็นผู้ช่วยผู้กำกับและเขียนบทให้กับภาพยนตร์สั้นหลายเรื่อง
ผลงานที่โดดเด่นที่สุดของสตางค์ กิตติภพ คือเรื่องใด?
- “เคาท์ดาวน์” (พ.ศ. 2551), “ฝนตกขึ้นฟ้า” (พ.ศ. 2554) และ “20 ใหม่ ยูเทิร์นวัย หัวใจรีเทิร์น” (พ.ศ. 2560)
สตางค์ กิตติภพ ได้รับรางวัลอะไรบ้าง?
- รางวัลสุพรรณหงส์ทองคำ สาขารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากเรื่อง “ฝนตกขึ้นฟ้า” (พ.ศ. 2554)

ผลงานภาพยนตร์ที่สำคัญ

เคาท์ดาวน์ (พ.ศ. 2551)

เป็นภาพยนตร์แนวระทึกขวัญที่เล่าเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนที่ติดอยู่ในลิฟต์ที่ตกลงมา
ประสบความสำเร็จอย่างมากในแง่ของคำวิจารณ์และรายได้ โดยกวาดรายได้ไปกว่า 200 ล้านบาท
ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสุพรรณหงส์ทองคำ สาขารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ทำให้สตางค์ กิตติภพ เป็นที่รู้จักในวงกว้าง

ฝนตกขึ้นฟ้า (พ.ศ. 2554)

เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติกดราม่าที่เล่าเรื่องราวของกลุ่มเด็กหนุ่มสาวที่หลงทางในป่า
ได้รับคำวิจารณ์เชิงบวกและประสบความสำเร็จในแง่ของรายได้ โดยกวาดรายได้ไปกว่า 80 ล้านบาท
ได้รับรางวัลสุพรรณหงส์ทองคำ สาขารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
เป็นภาพยนตร์ที่ทำให้สตางค์ กิตติภพ ได้รับการยอมรับจากฝีมือการกำกับและเขียนบท

20 ใหม่ ยูเทิร์นวัย หัวใจรีเทิร์น (พ.ศ. 2560)

เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติกคอมเมดี้ที่เล่าเรื่องราวของผู้หญิงวัย 40 ปีที่ย้อนเวลากลับไปเป็นตัวเองในวัย 20
ประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งในด้านคำวิจารณ์และรายได้ โดยกวาดรายได้ไปกว่า 500 ล้านบาท
เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดของสตางค์ กิตติภพ และได้รับรางวัลสุพรรณหงส์ทองคำ สาขารางวัลภาพยนตร์ยอดนิยม

บุพเพสันนิวาส 2 (พ.ศ. 2565)

เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติกย้อนยุคที่เป็นภาคต่อของละครโทรทัศน์เรื่องบุพเพสันนิวาส
ประสบความสำเร็จอย่างมากในแง่ของรายได้ โดยกวาดรายได้ไปกว่า 1,200 ล้านบาท
เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลของภาพยนตร์ไทย และเป็นผลงานที่ทำให้สตางค์ กิตติภพ กลายเป็นหนึ่งในผู้กำกับภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศ

ขอบคุณสำหรับความรัก (พ.ศ. 2567)

เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติกคอมเมดี้ที่เล่าเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนที่ต้องเผชิญกับความรักและการสูญเสีย
กำหนดฉายในวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2567 และคาดว่าจะประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งในด้านคำวิจารณ์และรายได้

สไตล์การกำกับภาพยนตร์ของสตางค์ กิตติภพ

สตางค์ กิตติภพ เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ที่โดดเด่นด้วยสไตล์การกำกับที่เป็นเอกลักษณ์ โดยมักจะใส่ใจในทุกรายละเอียดของภาพยนตร์ตั้งแต่การเขียนบท การวางมุมกล้อง การกำกับนักแสดง ไปจนถึงการตัดต่อภาพยนตร์ จุดเด่นที่สำคัญในสไตล์การกำกับของเขา ได้แก่

การเล่าเรื่องที่กระชับและเข้มข้น: ผลงานภาพยนตร์ของสตางค์มักจะเล่าเรื่องราวในแบบที่กระชับและเข้มข้น ตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้ผู้ชมติดตามได้อย่างเพลิดเพลิน
การสร้างบรรยากาศที่น่าดึงดูด: ภาพยนตร์ของสตางค์มักจะมีบรรยากาศที่น่าดึงดูด ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศแบบลึกลับระทึกใจ โรแมนติก หรือตลกขบขัน ซึ่งช่วยทำให้ผู้ชมอินไปกับเรื่องราวได้อย่างเต็มที่
การใช้มุมกล้องที่สร้างสรรค์: สตางค์มักจะใช้มุมกล้องที่สร้างสรรค์และแปลกใหม่ในการเล่าเรื่อง ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าสนใจและความตื่นเต้นให้กับภาพยนตร์ของเขา
การกำกับนักแสดงที่ยอดเยี่ยม: สตางค์มีฝีมือในการกำกับนักแสดงให้สามารถถ่ายทอดอารมณ์และความคิดของตัวละครได้อย่างถึงแก่น ทำให้ผู้ชมเชื่อและอินไปกับตัวละครได้อย่างเต็มที่
การตัดต่อภาพยนตร์ที่ลื่นไหล: ผลงานภาพยนตร์ของสตางค์มักจะตัดต่อได้อย่างลื่นไหลและแม่นยำ ทำให้ผู้ชมสามารถติดตามและเข้าใจเรื่องราวได้อย่างง่ายดาย

บทสรุป

สตางค์ กิตติภพ เสรีวิชยสวัสดิ์ เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ชาวไทยที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงทั้งในด้านคำวิจารณ์และรายได้ ด้วยความสามารถในการเล่าเรื่องที่กระชับและเข้มข้น สร้างบรรยากาศที่น่าดึงดูด กำกับนักแสดงได้อย่างยอดเยี่ยม และตัดต่อภาพยนตร์ได้อย่างลื่นไหล ผลงานภาพยนตร์ของสตางค์จึงเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมทั้งในประเทศและต่างประเทศ และทำให้เขาได้กลายเป็นหนึ่งในผู้กำกับภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในปัจจุบัน