ประวัติ หมิว สิริลภัส กองตระการ ว่าที่ ส.ส.คนใหม่ 2024

ประวัติ หมิว สิริลภัส กองตระการ ว่าที่ ส.ส.คนใหม่ 2024 […]

ประวัติ หมิว สิริลภัส กองตระการ ว่าที่ ส.ส.คนใหม่ 2024

บทนำ

สิริลภัส กองตระการ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “หมิว” เป็นนักการเมืองหญิงชาวไทยที่คาดว่าจะได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในการเลือกตั้งปี 2024 เธอเป็นที่รู้จักในด้านการทำงานอย่างหนักและความทุ่มเทเพื่อชุมชน ตลอดจนมุมมองที่ก้าวหน้าและเป็นกลางทางการเมือง

คำถามที่พบบ่อย

1. หมิว สิริลภัส อายุเท่าไหร่

หมิว สิริลภัส เกิดเมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2535 อายุ 34 ปีในปี 2024

2. หมิว สิริลภัส จบการศึกษาจากที่ไหน

หมิว สิริลภัส จบการศึกษาปริญญาตรีสาขาการเมืองการปกครองจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโทสาขารัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด

3. หมิว สิริลภัส สังกัดพรรคการเมืองใด

หมิว สิริลภัส สังกัดพรรคก้าวไกล

ประวัติการทำงาน

หมิว สิริลภัส เริ่มต้นอาชีพทางการเมืองในปี 2561 เมื่อเธอได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาเขตบางซื่อ เธอเป็นที่รู้จักในด้านการรณรงค์เพื่อสุขภาพและการศึกษา ในปี 2562 เธอได้รับเลือกเป็น ส.ส. บัญชีรายชื่อของพรรคอนาคตใหม่

ในฐานะ ส.ส. หมิว สิริลภัส ได้ทำงานอย่างหนักเพื่อชุมชนของเธอ เธอเป็นหนึ่งในเสียงนำในการเรียกร้องประชาธิปไตยและการเคารพสิทธิมนุษยชน เธอยังเป็นสมาชิกของคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน และคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ

จุดยืนทางการเมือง

หมิว สิริลภัส เป็นนักการเมืองแนวคิดก้าวหน้า เธอสนับสนุนหลักการประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และความเสมอภาคทางสังคม เธอเชื่อในความสำคัญของการศึกษา การดูแลสุขภาพ และการปกป้องสิ่งแวดล้อม เธอยังเป็นผู้สนับสนุนความสามัคคีและการปรองดองของชาติ

ความสำเร็จที่โดดเด่น

ได้รับเลือกเป็น ส.ส. ในปี 2562
ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาเขตบางซื่อ
เป็นหนึ่งในเสียงนำในการเรียกร้องประชาธิปไตยและการเคารพสิทธิมนุษยชน
เป็นสมาชิกของคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน และคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ
สนับสนุนหลักการประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และความเสมอภาคทางสังคม

รางวัลและการยอมรับ

รางวัลผู้นำเยาวชนแห่งปี 2562
รางวัลนักการเมืองหญิงแห่งปี 2563

อนาคต

หมิว สิริลภัส เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในแวดวงการเมืองไทย เธอเป็นที่รู้จักในด้านการทำงานอย่างหนัก ความซื่อสัตย์ และความทุ่มเทเพื่อประเทศชาติ เธอมีศักยภาพที่จะเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตของประเทศไทย